วันอังคารที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

นิทาน วาสนา



มีชายหญิงคู่หนึ่งรักกันมาก  คบกันมา 3 ปี ทั้ง 2 ตกลงจะแต่งงานกัน
      เมื่อกำหนดวันเรียบร้อย  ฝ่ายชายเองก็รอคอยวันที่จะแต่งงาน
        ต่อมาไม่นานฝ่ายชายรู้ข่าวว่า  คู่รักของตนแต่งงานกับคนอื่นอย่างกะทันหัน
        โดยฝ่ายหญิงเองก็เต็มใจ  ไม่ได้ถูกบังคับแต่อย่างใด
        เมื่อได้ทราบข่าว  เขาทั้ง งง และ เสียใจ มาก
        ร้องไห้ไม่กินไม่นอน  ไม่นานก็ป่วยหนักเพราะตรอมใจ

        เวลาผ่านไป  ฝ่ายชายป่วยหนักขึ้นเรื่อยๆไปหาหมอเท่าไหร่ก็ไม่ดีขึ้น
        ขณะที่นอนซมอยู่ที่บ้านนั้น  มีหลวงตาแก่ๆผ่านมา
        เมื่อมาถึงหลวงตาหยุดอยู่ที่หน้าบ้าน  แล้วมองเข้าไปในบ้านจึงเคาะประตู
        เด็กรับใช้ออกมาเปิดประตูพบว่า  เป็นพระ  จึงบอกว่า ไม่ทำบุญนิมนต์ข้างหน้า
        หลวงตายิ้มอย่างมีเมตตาแล้วพูดว่า อาตมาไม่ได้มาบิณฑบาต
        ในบ้านมีคนป่วยใช่มั้ย  อาตมาพอมีความรู้ทางด้านการแพทย์นิดหน่อย
        ไม่รู้จะพอช่วยได้รึปล่าว เด็กรับใช้ได้ฟังก็อึ้งแต่ก็บอกว่าตัดสินใจเองไม่ได้
        ต้องขอไปถามเจ้านายก่อน เด็กรับใช้เดินเข้าไปในบ้านถามเจ้านาย
        เจ้านายตอบอย่างตัดรำคาญว่าอยากเข้ามา  ก็เข้ามา!

        เมื่อหลวงตาเข้าไปพบที่ห้องนอนพบว่า
        ชายคนดังกล่าวนอนอย่างหมดอาลัยตายอยากอยู่บนเตียง
        สีหน้าซีดเซียว  ร่างกายซูบผอมประหนึ่งครึ่งคนครึ่งศพ
        เด็กรับใช้นำน้ำมาถวายหลวงตา  พร้อมจัดเก้าอี้ถวายข้างๆเตียงของชายคนนั้น
        หลวงตายิ้มแล้วพูดว่าอาการหนักเลยนะ
        ชายคนนั้น  นิ่งเงียบไม่สนใจในสิ่งที่หลวงตาพูด
        หลวงตาตรวจอาการพอเป็นพิธี  จึงกล่าวว่า  โทรมมากเลยนะ
        ชายคนนั้นไม่สนใจ หลวงตาบอกว่าไม่เชื่อ  ลองมองที่กระจกสิ
        ชายคนนั้นไม่สนใจ  แต่ขณะที่หางตาชายไปที่กระจกแต่งตัวในห้องนอน
        เขามองเห็นภาพของคนที่รักอยู่ในนั้น  ไม่นานภาพของคนรักก็ค่อยๆจางหายไป
        กลายเป็นภาพทิวทัศน์ชายทะเล

        ที่ชายทะเลแห่งนั้นเงียบสงบ ไม่มีคนผ่านไปมา
        ขณะที่ชายคนที่ป่วยนั้น  มองภาพในกระจกด้วยความสนใจนั้น
        เขาพบว่า  มีศพหญิงสาวนอนเปลือยกายอยู่ที่ชายหาด
        เวลาผ่านไปสักครู่ มีชายคนหนึ่งเดินผ่านมา
        เขามองเห็นศพหญิงคนนั้นด้วยความรังเกียจ  แล้วเดินผ่านไปอย่างรวดเร็ว
        ต่อมาพักใหญ่มีชายอีกคนหนึ่งเดินผ่านมา  เขามองเห็นศพนั้น
        เขาสงสารจึงถอดเสื้อนอกออกมาคลุมร่างของหญิงคนนั้น  แล้วเดินจากไป
        พักใหญ่ๆอีกเช่นกัน มีชายอีกคนเดินผ่านมา
        เขาพบคนนอนมีผ้าคลุมอยู่  จึงเปิดออกดู  เมื่อพบว่า  เป็นศพ
        ด้วยใจสงสาร  จึงจะฝังให้เรียบร้อย  แต่ก็ไม่มีเครื่องมือจะขุด
        เขาจึงตัดสินใจใช้มือทั้ง 2 ข้างๆ ค่อยๆกอบทรายขึ้นมา
        เขาทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนเย็น  พอได้หลุมใหญ่พอสมควร
        จึงได้ฝังศพผู้หญิงคนนั้นเรียบร้อยแล้วจากไป

        จากนั้นภาพในกระจกก็เปลี่ยนเป็นภาพของศพหญิงคนนั้น
        และก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นภาพของหญิงคนรัก เขาได้เห็นก็ตกใจ
        พอสักพัก ก็ปรากฏเป็นภาพชายคนที่ 2
        แล้วก็ค่อยๆจางหายไป  เหลือแต่เงาของตัวเองในกระจก

        ทันใดนั้นหลวงตาพูดว่า  ทีนี้เข้าใจรึยัง  ศพนั้นคือคู่รักของโยม
        ชายคนที่ช่วยฝังศพเธอ  ผูกวาสนากับเธอหนึ่งชาติ
        ชาตินี้เธอเลยแต่งงานกับเขา ส่วนโยมช่วยคลุมศพเธอ
        จึงผูกวาสนา 3 ปี ตอนนี้ครบ 3 ปี วาสนาสิ้นแล้วก็ต้องจากกัน


        เมื่อชายคนนั้นฟังจบก็กระอักเลือดออกมา เด็กรับใช้ตกใจมาก
        หลวงตายิ้มแล้วบอกว่า  โยมรอดแล้ว  เมื่อกี้โยมกระอักเลือดเอาเลือดเสียออกมาแล้ว
        ต่อมาไม่นานชายคนนั้นก็ได้ออกบวชในที่สุด

        ^_^ คนเราเจอกัน  ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ความสัมพันธ์ พ่อ , แม่ , พี่ , น้อง ,
        ญาติ , เพื่อน , ศัตรู , คนรัก ฯลฯ ไม่ใช่ของเลื่อนลอย

     
        เมื่อมีวาสนา  ไม่ต้องเรียกร้อง  ถึงเวลาก็มาเจอกัน
        เมื่อสิ้นวาสนา  ก็ต้องจากกัน  รั้งยังไงก็ไม่อยู่
        ในตอนที่ยังไม่จากกันนี้  คุณทำได้ทำดีต่อคนของคุณหรือยัง
        เพราะถึงเวลาที่ต้องจากกัน  ไม่ว่าคุณจะมีเงินหรืออำนาจล้นฟ้า  ก็เรียกมันกลับคืนมาไม่ได้  
       ทำดีต่อกันไว้ดีกว่า เพราะไม่มีใครรู้ว่า  เราจะต้องจากกันเมื่อไหร่ ^_^

เรื่องของนมที่คุณไม่ควรมองข้าม

สิ่งเล็กๆที่คุณอาจมองข้าม
WASH GARMENTS BEFORE WEARING
ซักเสื้อผ้าก่อนใส่ 
 Please make it a habit to wash your just purchased undergarments before wearing them. This is sensitive.
Our undergarments are made in different parts of the world, sit in boxes and go through many hands and exchanges before we purchase them for ourselves.
ซักชั้นในก่อนใส่ให้เป็นนิสัย มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก ๆ นะ เพราะชั้นในเหล่านี้ถูกผลิตจากที่ต่าง ๆ กันทั่วโลก บรรจุลงกล่องและผ่านมาแล้วหลายมือหลายขั้นตอนกว่าที่เราจะได้ซื้อมันมาใส่เอง เพราะเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่ามีตัวปรสิตอะไรบ้างที่อาศัยอยู่ในเสื้อผ้าตอนที่เราซื้อมันมา
ALL PLEASE WASH ALL BRAS, UNDERWEAR AND OTHER CLOTHS WHEN YOU BUY BEFORE WEARING THEM. WE DO NOT KNOW WHAT PARASITE IS IN OUR CLOTHES WHEN WE BUY THEM. Read the article first before looking at the picture and film. This looks horrible.
อ่านหัวข้อนี้ก่อนที่คุณจะดูรูป มันน่ากลัวและน่าขยะแขยงมาก ๆ
 
After anthropologist Susan McKinley came back home from an expedition in South America , she noticed a very strange rash on her left breast. Nobody knew what it was and she quickly dismissed it believing that the holes would leave in time. นักมนุษยวิทยาซูซาน แมคคินเลย์กลับมาบ้านหลังจากการทดลองที่อเมริกาใต้ เธอสังเกตว่าอกซ้ายของเธอมีความผิดปรกติแปลก ๆ บางอย ่าง ไม่มีใครรู้ว่ามันคืออะไรและเธอก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะคิดว่าเดี๋ยวโพรงเหล่านี่ก็จะหายไปเอง  Upon her return she decided to see a doctor after she started developing intense pains. The doctor, not knowing the exact severity of the disease, gave her antibiotics and special creams. As time lapsed the pain did not subside and her left breast became more inflamed and started to bleed.
She decided to bandage her sores however as Susan's pain grew more intense she decided to seek help from a more certified doctor. Dr. Lynch could not diagnose the infection and told Susan to seek the aid of one of his colleagues who specialized in dermatology whom was sadly on vacation. She waited for two weeks and finally was able to react the dermatologist.
เธอตัดสินใจไปหาหมอหลังจากที่เริ่มเจ็บปวดมากขึ้น หมอก็ไม่รู้แน่ชัดว่ามันคือเชื้อโรคอะไร แต่ก็ได้ให้ยาแอนตี้ไบโอติกกับครีมพิเศษกับเธอ เวลาล่วงเลยไปแต่ความเจ็บปวดก็ไม่บรรเทาลง อกซ้ายของเธอเริ่มบวมและมีเลือดออก เธอตัดสินใจพันแผลไว้ แต่เมื่อความเจ็บปวดทวีมากขึ้น เธอก็พยายามหาหมอที่มีความเชี่ยวชาญมากขึ้น ดร.ลินช์ไม่สามารถวินิจฉัยโรคนี้ได้และได้แนะนำเธอให้ไปขอรับความช่วยเหลือจากเพื่อนคนหนึ่งของเขาซึ่งเชี่ยวชาญด้านโรคผิวหนัง ซึ่งน่าเสียดายที่เขากำลังหยุดงานอยู่ เธอรอคอยถึง 2 สัปดาห์และในที่สุดก็สามารถพบผู้เชี่ยวชาญโรคผิวหนังได้
 Sadly, a life-changing event was about to unfold during her appointment.
To Miss McKinley's surprise, after she removed the bandages, they found larva growing and squirming within the pores and sores of her breast.
น่าเศร้าที่เหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตได้คลี่คลายออกมาระหว่างการนัดพบ หลังจากที่เธอนำผ้าพันแผลออก ซูซานก็ประหลาดใจอย่างมากเมื่อพบว่ามีตัวอ่อนกำลังเติบโตและดิ้นอยู่ภายในโพรงของทรวงอกที่ปวดร้าวของเธอ 
Sometimes these wicked creatures would all together simultaneously move around into different crevices. What she didn't know was that the holes were in fact, deeper than she had originally thought for these larvae were feeding off the fat, tissue, and even milk canals of her bosom. บางทีสิ่งมีชีวิตที่เลวร้ายนี้อาจกำลังเคลื่อนไหวพร้อม ๆ กันไปยังรอยแยกอื่น ๆ และ สิ่งที่เธอไม่เคยรู้มาก่อนก็คือโพรงนั้นลึกเกินกว่าที่เธอคิดไว้ในตอนแรก และเจ้าตัวอ่อนที่น่ารังเกียจพวกนี้ก็ถูกเลี้ยงดูฟูมฟักด้วยไขมัน เนื้อเยื่อและต่อมน้ำนมจากอกของเธอเอง บรื๋ออออ สุดๆอะ

วันจันทร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

แม่นาค

      นางนาคพระโขนง
         ผีตายโหง คนไทยเชื่อกันว่า เป็นผีที่น่ากลัวที่สุดโดยเฉพาะการตายโหง ถ้าเป็นผีตายทั้งกลมด้วยแล้ว ยิ่งมีฤทธิ์เดชมาก หลอกคนให้กลัวจนขนพองสยองเกล้า ดังผีนางนากพระโขนง กลายเป็นเรื่องเล่าทีโด่งดังมาจนถึงปัจจุบัน ชาวบ้านพระโขนงเล่ากันว่า ริมคลองวัดมหาบุศย์ มีสวนของคหบดีคือผู้ใหญ่สุข ที่ท้ายสวนเป็นทางเกวียนเข้าสู่วัด มีเรือนหลังเล็กๆอยู่ท้ายสวน ไกลผู้คน ผัวเมียคู่หนึ่งอาศัยอยู่ที่นั่น ผัวชื่อทิดมาก เป็นคนย่านคลองเตย เมียชื่อแม่นาก เป็นสาวงามย่านพระโขนง แม้จะรับจ้างทำสวนและยากจน แต่ทั้งคู่ก็รักกันมาก ขณะที่แม่นากตั้งท้อง ทิดมากก็ถูกระดมเข้าเป็นทหาร แรกๆก็มาเยี่ยมเมียได้ แต่ต่อมาต้องเดินทัพไปทางเหนือเป็นเวลาหลายเดือน กว่าจะยกทัพกลับก็เลยเวลาที่แม่นากจะคลอดลูกไปราว 2 เดือน
เมื่อทิดมากกลับจากไปรบ ถึงพลบค่ำก็รีบขี่เรือจ้างมาขึ้นท่าน้ำวัดมหาบุศย์มาหาแม่นากทันที คืนนั้นเป็นคืนวันพระขึ้น 15 ค่ำ แสงจันทร์สว่างนวลพอเห็นทางและบ้าน ขึ้นบ้านเรียกหาเมีย ก็เห็นนั่งอุ้มลูกอยู่ ดีใจจึงรีบไปหา แต่ก็สะดุ้งเมื่อจับต้องเมียและลูกร่างกายเย็นผิดปรกติ ทั้งเมียและลูกผอม แม่นากอย่างกับรู้ใจ บอกว่าผัวกำลังหิวข้าว ก็ไปจัดสำรับกับข้าวที่ชอบมาให้กิน พอกินหน่อยนึง ก็มีลมเย็นพัดมาทำให้หนาว ช้อนเลยตกลงไปใต้ถุนเรือน พลันแม่นากก็เอามือหย่อนลงไปเอาช้อนกลับมาให้ได้ เมื่อทิดมากสงสัย แม่นากก็ร้องไห้คร่ำครวญและบอกว่านางตายไปแล้ว ลูกได้ยินก็วิ่งออกมาหาแม่ แล้วแสดงกระโดดขึ้นบนขื่อให้พ่อดู ทิดมากรู้ว่าเมียและลูกเป็นผี จึงรีบวิ่งออกมา พลันตะเกียงก็ดับลง ทิดมากวิ่งไปบ้านพี่สาวที่ชื่อหวาน แล้วนางนากก็ตามมาร้องเรียก ทิดอ่วมจึงเอาน้ำมนต์มาประพรม โปรยป้องกันและขอร้องให้นางนากกลับ
เหตุที่ผีแม่นากเฮี้ยนหนัก เพราะเอาศพไปฝังไว้ระหว่างต้นตะเคียนคู่ ก่อนหน้าที่ทิดมากจะมา ผีนางนากไปร้องขอข้าวเณร และยื่นมือไป เณรเอามีดหมอหลวงตาฟันมือขาด หลวงตาเอาเณรไปไว้ในกุฏิ เอาใบหนาดสวม และนอนเฝ้า แต่ผีนางนากก็มาหักคอเณรจนได้ ผีนางนากกับลูกเที่ยวหลอกชาวบ้านและคนเดินทาง รวมทั้งพระในวัดจนเป็นที่เลื่องลือ แม้หนุ่มๆ ผีนางนากก็แปลงกายเป็นสาวสวยมาหลอกให้หลง พอรู้ว่าเป็นผีก็หนีขวัญหนีดีฝ่อ ทิดมากเองจะไปไหนก็ไม่ได้ นางนากคอยติดตาม ในที่สุดต้องหาหมอผีมาเรียกวิญญานนางนากและลูกใส่หม้อนำไปถ่วงน้ำ แล้วทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ ผีนางนากจึงหายไป แต่ตำนานเรื่องแม่นากพระโขนงก็ยังเล่าสืบกันมา จนถึงกับนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่อง แม่นากพระโขนง ฉายให้คนชมติดใจไปตามๆกัน